ถ้าพูดถึงไวน์พื้นเมืองของอิตาลีขั้นเทพที่โด่งดังจนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ไวน์ Barolo และ Brunello ต้องถูกพูดถึงอย่างแน่นอน ทั้งไวน์ Barolo และ Brunello นั้นถูกยกให้เป็น “ราชาแห่งไวน์” ของประเทศอิตาลี
ไวน์แนะนำ
วันนี้ไวน์แมนจะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับความสุดยอดของไวน์ Barolo และ Brunello นี้ รสชาติอันดุดันของพวกเขา ความแตกต่าง และแน่นอนจะบอกว่าไวน์แมนชอบตัวไหนมากกว่ากัน
Barolo
ไวน์ Barolo ถือเป็นพระเอกเบอร์หนึ่งของแคว้น Piedmont ในประเทศอิตาลีที่จำกัดเขตการผลิตเพียง 11 หมู่บ้านรวมถึงตำบลเล็กๆ บริเวณเนินเขา Langhe เท่านั้นครับ ผลิตจากองุ่นสายพันธุ์ Nebbiolo เพียงแค่สายพันธุ์เดียวแถมยังพ่วงดีกรีไวน์ตัวแรกที่ได้รับรองมาตรฐาน DOCG จากอิตาลีรับประกันความสุดยอดทั้งในด้านกระบวนการผลิต รสชาติ และคุณภาพ นอกจากนั้นไวน์ Barolo ยังถูกเรียกว่าเป็น “เบอร์กันดีแห่งอิตาลี” เพราะว่าสายพันธุ์องุ่น Nebbiolo ที่นำมาผลิตไวน์ตัวนี้มีความคล้ายคลึงกับองุ่นสายพันธุ์ Pinot Noir ที่นำมาใช้ทำไวน์เบอร์กันดี มีลักษณะเฉพาะคือ มีเปลือกบาง ปลูกยาก และมีกลิ่นหอมยากจะห้ามใจ
Brunello
ไวน์ Brunello di Montalcino คือไวน์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับแค้วน Tuscany มากที่สุด ต้องถูกผลิตภายในตำบล Montalcino เท่านั้น รู้จักกันดีในฐานะราชาแห่งไวน์ตีคู่มากับไวน์ Barolo รวมถึงยังพ่วงตำแหน่งไวน์ DOCG ผลิตจากองุ่นสายพันธุ์ Sangiovese แค่เพียงสายพันธุ์เดียว ไวน์ Brunello ต้องทำการหมักบ่มอย่างน้อย 24 เดือน มีสีเข้มกว่าไวน์แดงทั่วไป เป็นสีแดงสดขณะยังเป็นไวน์ใหม่และเป็นสีแดงโกเมนเมื่อถูกหมักบ่ม มีวิธีการผลิต 2 แบบคือการผลิตแบบดั้งเดิมซึ่งจะหมักบ่มเก็บไว้ในถึงไม้ขนาดใหญ่ และวิธีการผลิตสมัยใหม่ซึ่งจะหมักบ่มไว้ในถังบาร์ริค
ความแตกต่างของไวน์ Barolo VS. Brunello
ความแตกต่างด้านพื้นที่เพาะปลูก
แม้ว่าทั้งไวน์ Barolo + Brunello จะถูกจัดว่าเป็นราชาแห่งไวน์แต่ก็ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียวครับ ทั้งรสชาติและกลิ่นสัมผัสมีความต่างกันตั้งแต่พื้นที่เพาะปลูกไปจนถึงรสชาติกลิ่นสัมผัส แคว้น Piedmont เป็นพื้นที่เขตร้อนกลางๆ แถมยังมีฝนตกกำลังดี ปริมาณแสงแดดพอเหมาะบนพื้นที่เชิงเขาที่ใช้ปลูกองุ่น รวมถึงจำนวนหมอกหนาแน่นทำใมี acidity สูง ในขณะที่ Montalcino เป็นเขตร้อนจัดและแห้งมากที่สุดในแคว้น Tuscany ทำให้องุ่น Sangiovese นั้นสุกได้เต็มที่บวกกับลืมเย็นจากทะเล Tyrrhenian ในช่วงกลางคืนทำให้รสชาติของน้ำองุ่นบาลานซ์กับ acidity กำลังพอเหมาะพอดี
ความแตกต่างด้านโครงสร้าง tannin และ acidity
ไวน์ดังทั้ง 2 ตัวมีกลิ่นสัมผัสของผลไม้จำพวก เชอร์รีและเบอร์รี กลิ่นหญ้ารวมถึงโครงสร้างหนักทั้ง 2 ตัว แต่ถ้าเปรียบเทียบกันลึกๆ Barolo จะมี tannin แรงและมี acidity เบากว่า Brunello นิดนึง
ความแตกต่างด้านกลิ่นสัมผัส
Barolo มีชื่อในกลิ่นของดอกไม้ที่ชัดเจน แต่อย่าให้กลิ่นหอมนุ่มนวลนั้นหลอกคุณนะครับ เพราะรสสัมผัสนั้นดุดันและระทึกใจมาก tannin นั้นแทบจะกระโดดมาปะทะลิ้นคุณทันทีที่ได้จิบไวน์เข้าไปเลย นี่เป็นสาเหตุที่ควรเอจ Barolo ไว้หน่อยเพื่อให้ tannin นุ่มนวลขึ้น นอกจากนี้ Barolo มีโน๊ตหลักๆ เป็น ผลไม้พวกเชอร์รี เบอร์รี ชะเอมเทศ กลิ่นกุหลาบ และหญ้าแห้ง รวมถึงเห็ดทรัฟเฟิลขาว แตกต่างกับ Brunello ซึ่งจะโดดเด่นกว่าในเรื่องกลิ่นสมุนไพร เบอร์รีสีดำ และกลิ่นหนัง แต่ tannin นั้นไม่ดุดันเท่า Barolo
โดยรวมแล้วไวน์ทั้ง 2 ตัวนั้นถือว่าเป็นไวน์โบว์แดงของอิตาลีเลย เป็นคนละสไตล์กันเลยเปรียบเทียบยาก แต่ถ้าจะให้ไวน์แมนเลือกจริงๆ ผมจะชอบ Barolo มากกว่า เหตุเพราะกลิ่นผลไม้ดอกไม้ที่นุ่มนวลและเด่นชัดในขณะเดียวกัน และโครงสร้าง tannin ที่น่าตื่นเต้นและน่าจดจำ Brunello นั้นก็ดีเหมือนกันแต่ส่วนตัวแล้วคิดว่ารสชาติซีเรียสและซ้ำซากไปนิดนึง
นอกจากไวน์ทั้งสองตัวนี้เเล้ว ไวน์อิตาเลี่ยนตัวอื่นๆก็น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นจากภูมิภาค Piemonte ก็น่าสนใจเหมือนกันครับ
เรียนรู้ไวน์ไปพร้อมๆ กับเราที่ Wineman.Thailand