fbpx

งดบริการให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อ่านนโยบายการขาย คลิก

ติดต่อเราเพื่อสอบถาม

แอด LINE สั่งเลย

*สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น

Please add Image or Slider Widget in Appearance Widgets Page Banner.
If you would like to use different Widgets on each page, we reccommend Widget Context Plugin.

ไวน์ควร decant ไว้นานเเค่ไหน?

June 29, 2020

ปกติเเล้วไวน์เเดงส่วนใหญ่จะอร่อยกว่ามากถ้า decant ไวน์ ก่อนดื่ม ไม่ใช่เเค่เฉพาะไวน์ดีราคาเเพง ไวน์ราคาถูกก็อร่อยขึ้นได้เหมือนกัน ระยะเวลาในการ decant ไวน์ ก็มีก็ตั้งเเต่ 30 นาทีจนถึง 3 ชั่วโมงขึ้นไป ขึ้นอยู่กับชนิดเเละอายุของไวน์ วันนี้เราจะมาดูกันว่าไวน์เเต่ละชนิดควร decant นานเท่าไหร่ คนส่วนใหญ่จะดื่มไวน์เเดงที่มีอายุประมาณ 2-10 ปี ฉะนั้นเทคนิคต่อไปจะเหมาะกับไวน์เเดงที่อยู่ในช่วงอายุประมาณนี้ครับ


ไวน์แนะนำ



การ decant ไวน์ ไม่ใช่อะไรที่จะทำเเบบชิลๆนะครับ เพราะถ้าชิลเกิน ไวน์ของคุณคงมีรสชาติที่ทำให้คุณต้องร้อง เฮ้อ! ได้

decant ไวน์

 

ไวน์เเดง

 Zinfandel: 30 นาที

Pinot Noir: 30 นาที (อย่างเช่น red Bourgogne)

Malbec: 1 ชั่วโมง

Grenache : 1 ชั่วโมง

Cabernet Sauvignon / Merlot: 2 ชั่วโมง

Petite Sirah: 2 ชั่วโมง

Tempranillo (อย่าง Rioja) : 2 ชั่วโมง

Sangiovese (Brunello, Chianti) : 2 ชั่วโมง

Vintage Port & Madeira: 2 ชั่วโมง

Monastrell: 2–3 ชั่วโมง (อย่างเช่น Bandol)

Syrah/Shiraz: 2–3 ชั่วโมง

Nebbiolo (Barolo, Barbaresco) : 3 ชั่วโมงขึ้นไป

ไวน์ขาว 

เป็นที่รู้ๆกันในหมู่คอไวน์ว่า ไวน์ขาวไม่จำเป็นต้อง decant เท่าไหร่ จริงๆ เเล้วก็คือ เราไม่ควรไป decant ไวน์ที่มีกลิ่นหอม เพราะไวน์อาจจะบ้งได้ เเต่ในบางครั้งสำหรับไวน์ขาวที่มีรสชาติปิดหรือกลิ่นอับๆ การ decant ก็จะช่วยให้รสชาติไวน์นั้นดีขึ้น ซึ่งรสชาติเเบบนี้พบได้บ่อยๆในไวน์ขาว full-bodied ที่มาจากภูมิภาคที่อากาศเย็นๆ อย่าง white Burgundy ก็ decant ไว้สักสัก 30 นาทีกำลังดีครับ

ทิปง่ายๆ จากไวน์เเมน

  • ไวน์ใหม่ที่มีเเทนนิน เเละ body เยอะ ควร decant ไว้ค่อนข้างนานครับ
  • ระวังอย่า decant ไวน์เก่าๆนานเกิน เพราะไวน์อาจถูกออกซิไดซ์มากเกินไป เเนะนำให้ decant 15-30 นาทีก่อน หลังจากนั้นให้ชิมเป็นระยะๆ ทีละน้อย  เพื่อดูว่าแทนนินอ่อนนุ่มลงและมีกลิ่นหอมมากขึ้นหรือยัง
  • การ decant 2 ครั้งจะทำให้ไวน์หายใจได้เร็วมากขึ้น โดยให้รินไวน์ใส่ decanter เเล้วรินกลับลงขวด เเละทำซ้ำเท่าที่ควร
  • คุณสามารถ swirl (หมุน) ตัว decanter ของคุณได้ เพื่อทำให้ไวน์หายใจได้เร็วขึ้น
  • wine aerators สามารถ decant ได้เร็วกว่า แต่ไม่แนะนำให้ใช้กับไวน์ที่มีอายุมากนะครับ
  • อย่าทำให้ไวน์อุ่นขึ้นอย่างฉับพลันเด็ดขาดตอน decent เพราะว่าไวน์ไวต่ออุณหภูมิมาก
  • ไวน์ที่ถูก decant เอามาเก็บเข้าขวดดื่มวันต่อไปไม่ได้ เพราะรสชาติเปลี่ยนเเล้วเปลี่ยนเลย
  • ไวน์แดงส่วนใหญ่อยู่ต่อได้อีกเพียง 12-18 ชั่วโมงหลังถูก decant นะครับถ้าเป็นไปได้ให้ดื่มให้หมด

ดูยังไงว่า decant กำลังดีหรือยัง

ง่ายๆ เลยคือ  ลองชิมไวน์ก่อนจะ decant ไวน์บางตัวที่มีรสชาติที่สุดยอดเเละ “เปิด” ตอนก่อน decant ก็ไม่จำเป็นต้อง decant ครับ เเต่สำหรับไวน์ที่ “ปิด” (ไม่ค่อยมีกลิ่นหรือรสเเทนนินหนักเกิน) ก็ decant ก่อนตามช่วงเวลาที่เราได้เเนะนำไว้ในกราฟฟิก หลังจากนั้นให้ลองชิมเรื่อยๆเป็นระยะ 30 นาที จนกระทั้งรู้สึกว่ารสชาตินั้นเปิดขึ้นมา เราจะรู้สึกได้เลยว่าไวน์นั้นมีกลิ่นหอมเตะจมูกเเละดูน่าดื่มมากขึ้น เเละนั่นเเหละเเปลว่า decant พอเเล้ว

ดูยังไงว่า decant นานเกินไป 

ถ้าไวน์มีกลิ่นเหมือนน้ำสมสายชูนั่นเเหละครับ เเปลว่าคุณ decant  ไวน์นานเกินไปเเล้ว

ปกติเเล้วไวน์ที่อยู่ในขวดจะมีออกซิเจนที่น้อยมากๆ decanting จึงเป็นกระบวนการที่ทำให้ไวน์เจอกับออกซิเจนได้มากขึ้น ช่วยกระจายกลิ่นเเละทำให้มีรสชาติดีขึ้น เเต่ขณะเดียวกันก็มีปฏิกิริยาทางเคมีที่ทำให้ไวน์เสื่อมสภาพลง เเละเมื่อไวน์เสื่อมสภาพลงก็จะทำให้เกิดกรดอะซิติกในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นกรดเดียวกันที่อยู่ในน้ำสมสายชู มีรสเปรี้ยวปรี๊ด บาดคอบาดจมูกไปหมดเลยละครับ

เเต่ก็ต้องดมดีๆด้วยนะครับ บางทีกลิ่นที่คุณได้กลิ่นอาจจะไม่ได้มาจากการ decent ที่นานไปก็ได้ อาจจะเป็น กลิ่นของไวน์เสีย? ซึ่งอันนี้ไวน์เเมนก็ไม่สามารถไปช่วยดมได้ ระวังกันด้วยนะครับ 

ไวน์อื่นๆ ละ ต้อง decant นานเเค่ไหน?

ไวน์เเดง full-bodied : ไวน์อย่าง Aglianico, Barbera, Charbono, Sagrantino เเละ ไวน์เเดงที่มีเเทนนินสูงเเละมีสีเข้มตัวอื่นให้ decant ให้นานขึ้น สัก 3 ชั่วโมงขึ้นไปกำลังดีครับ

ไวน์เเดง medium-bodied : ไวน์ Bonarda, Cabernet Franc, Dolcetto, Montepulciano, Lagrein เเละไวน์ medium bodied ตัวอื่นๆที่สียังมีความโปร่งเเสงอยู่ รวมถึงมีเเทนนินกลางๆ (เเละส่วนใหญ่มี acidity สูง) ก็ decant ไว้สักชัวโมงหนึ่งพอครับ

Champagne : ถ้าคุณรู้สึกว่าฟองเเชมเปญนั้นเด่นกว่ารสชาติของเเชมเปญจนเกินไป ลองใช้เเก้ว vintage หรือ coupe ดูสิครับ สามารถช่วยได้

Our favourite wines

"ไวน์" ไวน์แมน - ไวน์แดง ขาว สปาร์กลิงไวน์

สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด

บริษัทขอสงวนสิทธิ์การสั่งให้สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น ผู้สั่งต้องรับสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานทางร้านจะต้องมีการพบหน้าผู้สั่งและตรวจสอบบัตรประชาชนและอายุโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์ประกอบภาพและคำอธิบายทั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงประเภทและสรรพคุณของเครื่องดื่ม สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด หลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับ