คำถามนี้เป็นคำถามที่เจอบ่อยมาก‘ เพราะ range ของราคาตู้ไวน์นี่กว้างมากเหลือเกิน บางตู้นี่เเพงยันเเสน บางตู้ไม่กี่พัน จึงเกิดเป็นคำถามว่า ราคาส่งผลถึงคุณภาพไหม เเละตู้ไวน์ราคาเเพงกับตู้ไวน์ราคาถูกต่างกันยังไง?
ไวน์แนะนำ
ถ้าให้พูดกันตรงๆเเล้ว ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่บอบบางมาก เจออะไรที่เเปรปรวนหน่อยก็เสียหายได้ ‘ตู้เเช่ไวน์’ จึงเป็นเสมือนองครักษ์ที่ต้องคอยรักษาเเละสร้างสภาพเเวดล้อมให้เหมาะกับไวน์ อารมณ์เหมือนคุณอยู่ในประเทศไทยที่อากาศร้อนๆ เเต่ไวน์ของคุณต้องเหมือนอยู่ที่ยุโรปตลอดเวลา ตู้เเช่ไวน์ที่คุณใช้จึงต้องมีความเสถียรมากพอ ‘ตู้เเช่ไวน์’ ระดับไฮเอนด์บางตัวนี่ออกเเบบมายังกับห้องเก็บไวน์เลยนะครับ เรียกว่ายิ่งใหญ่จริงๆ ซึ่งก็ต้องเเลกมากับราคาที่สูงขึ้น หลักๆที่สัมผัสได้เลยก็ต้องเป็นเรื่องของฟังก์ชั่น มาดูกันดีกว่าครับว่าเเตกต่างยังไงบ้าง
ระบบความเย็น
ระบบความเย็นของตู้เเช่ไวน์นั้นเเบ่งเป็น 2 เเบบ คือ (1) one cooling zone (2) dual-zone เเน่นอนครับว่า อย่างหลังมีฟังก์ชั่นที่มากกว่า เพราะสำหรับ two cooling zones นั้นคุณสามารถปรับอุณหภูมิในตำเเหน่งที่เเตกต่างกันได้อย่างเต็มที่ เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับคอไวน์ที่รักเเดงเสียขาวได้อย่างดี เพราะไวน์ขาวเขาชอบอยู่กับอุณหภูมิที่เย็นกว่า เเละเพื่อไม่ให้ไวน์เเดงของคุณเสียรสชาติ คุณก็เเค่เเยกวางทั้งสองไวน์ออกจากกันเท่านั้นเองครับ รวมไปถึงคนที่อยากลองเอจไวน์ เเต่อยากจะเปิดไวน์ดื่มบ้างเป็นครั้งคราวก็สามารถเเช่ไวน์ไว้ในตู้เดียวกันได้ เพียงเเต่อุณหภูมิสำหรับเอจไวน์ต้องเย็นกว่าเท่านั้นเอง เเต่ในขณะเดียวกันเเบบ one cooling zone ไม่สามารถทำให้คุณสัมผัสความสุขเเบบนี้ได้ เพราะอุณหภูมิทั้งตู้จะเท่ากันหมด คุณอาจจะต้องเก็บไวน์เเต่ละชนิดเเยกกันหรือไม่ก็ต้องหาอุณหภูมิที่พอดีที่จะเก็บไวน์ทั้งหมดให้ได้ เเละนอกจากนี้อย่าลืมครับว่าอุณหภูมิส่งผลต่อความชื้น ถ้าอุณหภูมิไม่เสถียร ความชื้นก็จะไม่เสถียรตาม ฉะนั้นคุณภาพของตู้เเช่ถึงได้สำคัญยังไงละครับ
การควบคุมความชื้น
อีกหนึ่งสิ่งที่ตู้เเช่ไวน์คุณภาพดีต้องมีคือ ระบบความชื้นที่มีประสิทธิภาพหรือเปล่า เพราะความชื้นเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยรักษาสภาพของจุกคอร์ก ความชื้นที่น้อยไปทำให้จุกคอร์กเเตกได้ เเต่ความชื้นสูงเกินไปก็ไม่ดีเหมือนกัน โดยทั่วไปตู้เเช่ไวน์ราคาเเพงจะมีระบบคุมความชื้นได้เสถียรกว่า บางเครื่องก็ปรับความชื้นได้ตามสมควรเลย
ระบบลดการสั่นสะเทือน
การสั่นสะเทือนมีผลต่อสารต่างๆในไวน์อย่างมาก โดยเฉพาะพวกตะกอนในไวน์ การสั่นมากๆก็คงกระจายกันไปทั่วขวด เเละทำให้เกิดปฏิกิรยากับไวน์ด้วย ถ้าเป็นไวน์ขวดเปล่าๆมีการสั่นนิดเดียว เเต่เป็นช่วงเวลานานนั้น อาจทำให้ไวน์เสียได้เลย ซึ่งปกติเเล้วการทำงานของระบบเเบบเทอร์โมอิเล็กทริก (Thermoelectric) นั่นมีปัญหาน้อยกว่าในเรื่องการสั่นสะเทือน เพราะเป็นระบบไฟฟ้าไหลผ่านแผ่นปั๊มความร้อน เเต่สำหรับไม่ใช่สำหรับระบบคอมเพรสเซอร์ (Compressor) การทำงานของระบบนี้ต้องมีการใช้สารทำความเย็นผ่านลวด เพื่อเอาความร้อนออกไปข้างนอก จึงทำให้มีการสั่น เเละเพื่อลดการสั่นสะเทือนผู้ผลิตจะต้องหาเทคโนโลยีใหม่ๆมาพัฒนา อย่างเช่น การใช้ฐานรองสำหรับคอมเพรสเซอร์เพื่อลดการสั่นสะเทือนเเละเสถียรขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตมีราคาสูงขึ้น ราคาเลยสูงขึ้นตาม ตู้ไวน์บางเครื่องจะมีระบบการกันสะเทื่อนจากภายนอกอีกด้วย ซึ่งก็เพิ่มราคาให้ขึ้นสูงอีก
การทำงานเเบบไร้เสียง
ในส่วนของเรื่องเสียงนี่ก็เหมือนกับการสั่นสะเทือนเลยครับ โดยเฉพาะระบบคอมเพรสเซอร์ (Compressor) มาพร้อมกับเสียงเเน่นอน ใครที่เคยได้ยินเสียงตู้เย็นก็น่าจะคุ้นเคยกันดี บางทีนั่งอยู่คนละห้องยังได้ยินเลย เพื่อทำให้ตู้เเช่ไวน์นั่นดูมีคุณภาพมากขึ้น จึงต้องมีการใช้ระบบเเบบไร้เสียงที่เเพงขึ้นมา เเต่ก็เเลกมากับความสบายหูละครับ
ระบบป้องกันเเสง UV
เเสงเป็นศัตรูตัวฉกาจของไวน์เลยครับ ตู้เเช่ไวน์ที่คุณใช้จึงต้องมีประสิทธิภาพการป้องกันเเสงได้ดี ถึงเเม้จะเป็นประตูกระจกเขาก็จะมีระบบป้องกันเเสง UV ให้ จึงมั่นใจได้ว่าไวน์ของคุณจะปลอดภัยจากเเสงเเน่นอน ราคาก็เเพงขึ้นมา เเต่สำหรับตู้เเช่ราคาถูกเเล้ว พวกฟีทเจอร์พิเศษอะไรพวกนี้อาจจะเชื่อไม่ได้สักเท่าไหร่ เพราะคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าวัสดุที่ใช้นั้นมีคุณภาพมากพอหริแเปล่า ทางที่ดีซื้อของที่น่าเชื่อถือไปเลยดีกว่าครับ
ระบบบำบัดอากาศ
ระบบนี้เปรียบเสมือนไส้กรองที่เรียกว่า “activated carbon” มีหน้าที่ขจัดสิ่งสกปรกหรือกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ออกเเละเหลือไว้เพียงอากาศบริสุทธิ์ นอกจากนี้ก็ยังช่วยรักษาระดับความชื้นให้เหมาะสม
วัสดุ
ตู้เเช่ไวน์..ที่มากับราคาเเพงจะใช้วัสดุที่มีคุณภาพเเละหรูกว่า เช่น ตัวตู้ทำมาจากสแตนเลสเกรด A++ ชั้นทำมาจากไม้บีช (หรือ beechwood) ซึ่งบอกไว้เลยนะครับว่า ถ้าวัสดุเกรดดีเท่าไหร่ความเสถียรที่ได้ก็จะมากขึ้นเท่านั้น รวมถึงดีไซน์ที่ได้ก็จะสวยอลังการมากขึ้นอีกด้วยครับ
ตู้เเช่ไวน์ที่มีราคาต่างกันก็เหมือนกับไวน์ละครับ ไวน์เเต่ละขวดก็มีต้นทุนที่ต่างกัน ถ้าใครสนใจอยากรู้ว่า ไวน์เเพงกับไวน์ถูก นั้นต่างกันเหมือนคุณตู้เเช่ไวน์ไหม ก็ คลิกที่นี่ เพื่ออ่านเลยครับ