ไวน์โลกเก่า (old world) เเละ ไวน์โลกใหม่ (new world) ต่างกันยังไง?
July 12, 2020
คำว่า New World (ไวน์โลกใหม่) เเละ Old World (ไวน์โลกเก่า) เป็นคำที่ใช้บ่งบอกเเหล่งผลิตของไวน์นั่นเองครับ รวมถึงยังสามารถบอกถึงรสสัมผัสเเละเอกลักษณ์ของไวน์นั้นๆ อีกด้วย ว่าเเต่ไวน์ทั้งสองอย่างนี้เเตกต่างกันอย่างไรละ เรามาทำความรู้จัก “ไวน์โลกเก่าเเละไวน์โลกใหม่” นี้กันเลยครับ
ไวน์แนะนำ
สิ่งที่ทุกคนควรรู้ x ไวน์โลกเก่าเเละไวน์โลกใหม่
Old World Wine (ไวน์โลกเก่า)
Old World Wine (ไวน์โลกเก่า) คือ ไวน์ที่ผลิตในประเทศในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นเเหล่งกำเนิดของไวน์ ไม่ว่าจะเป็น อิตาลี, สเปน, เยอรมัน, โปรตุเกส, ออสเตรีย, กรีซ, ฮังการี เเละที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือเจ้าเเม่เเห่งการทำไวน์ ประเทศฝรั่งเศสนั้นเอง ซึ่งประเทศเหล่านี้มีการผลิตไวน์มาเเล้วอย่างน้อยถึง 5 ทศวรรษเลยทีเดียวละครับ โดยนอกจากเป็นเเหล่งกำเนิดไวน์เเล้ว ที่นี่ยังเป็นเเหล่งกำเนิดของกฏเเละเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การปลูกองุ่น การหมักไวน์ในถังโอ๊คเเละอื่นๆ ที่เป็นกระบวนการเเบบดั้งเดิมที่ทำกันมาหลายรุ่นอีกดวย
New World Wine (ไวน์โลกใหม่)
New World Wine (ไวน์โลกใหม่) คือ ไวน์ผลิตในประเทศที่อยู่นอกทวีปยุโรปเเละมีการเริ่มผลิตไวน์ทีหลัง มีทั้งอเมริกา, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีเเลนด์, อาร์เจนติน่า, เเอฟริกาใต้, อินเดีย, จีน, ญี่ปุ่นเเละรวมถึงพี่ไทยด้วย อารมณ์เหมือนเป็นผลของการล่าอาณานิคมของประเทศในทวีปยุโรป ง่ายๆ ก็คือเป็นการเผยเเพร่วัฒนธรรมการผลิตไวน์ไปสู่ดินเเดนใหม่นั่นเอง
อากาศของประเทศ New World นั้นจะอุ่นกว่าทำให้องุ่นนั้นสุกกว่า ผลลัพธ์ที่ได้คือ ไวน์มีเเอลกอฮอล์เเละ body สูง เเละรสชาติผลไม้เด่นชัด ส่วนมากไวน์ New World ก็จะใช้โอ๊คมากช่วยมากกว่าอีกด้วย
ความเเตกต่างของรสสัมผัส
สำหรับความเเตกต่างของไวน์ทั้ง 2 โลกนี้ก็คล้ายกับความเเตกต่างขององุ่นที่ปลูกในอุณหภูมิอุ่นเเละเย็นเเหละครับ เพราะก็จะมีรสชาติที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ตามเเหล่งที่ปลูก
เรามาเริ่มกันที่ไวน์โลกเก่ากันก่อนเลย โดยลักษณะของไวน์โลกเก่าจะมี body เเละเเอลกอฮอล์ที่เบากว่า (เเต่ก็ไม่เสมอไป) acidity จะสูงกว่า มีรสสัมผัสไปทางพวกเเร่ธาตุมากกว่าผลไม้ เพราะปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น ความสุกก็อาจจะไม่เฟียสเท่าไหร่ อย่างเช่น องุ่น Pinot Noir, Syrah เเละ Cabernet Sauvignon เเต่ถึงรสชาติส่วนใหญ่จะออกเเนวเเร่ธาตุ ก็ไม่เเต่เเปลว่าไวน์โลกเก่าไม่มีเเบบฟรุ๊ตตี้นะครับ อย่างอิตาลีนี่ก็ผลิตไวน์ที่ให้รสชาติผลไม้ได้ดี เเถมมีความหรูหรา เเละเอจได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้คนที่ชอบไวน์โลกเก่าส่วนใหญ่จะติดใจความคลาสสิคของทั้งรสชาติไวน์เเละกระบวนการผลิตที่มีความเป็นขั้นเป็นตอนนั่นเอง
เเละอย่างที่บอกนะครับ ไวน์ New World เขาจะฟรุ๊ตตี้เเละ Full-bodied มากกว่า ไวน์โลกใหม่มีเรื่องของ innovation มาเกี่ยวข้องอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการปลูกองุ่นหรือกระบวนการหมัก จนไปถึงการใช้โอ๊ค
สรุปคือ..
ไวน์ Old World:
- body เบากว่า
- alcohol น้อยกว่า
- acidity สูงกว่า
- มีรสสัมผัสของเเร่ธาตุ
ไวน์ New World:
- body เข้มกว่า
- alcohol สูงกว่า
- acidity ต่ำกว่า
- มีรสสัมผัสของผลไม้