fbpx

งดบริการให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อ่านนโยบายการขาย คลิก

ติดต่อเราเพื่อสอบถาม

แอด LINE สั่งเลย

*สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น

Please add Image or Slider Widget in Appearance Widgets Page Banner.
If you would like to use different Widgets on each page, we reccommend Widget Context Plugin.

6 เรื่องไม่น่าเชื่อ! เกี่ยวกับไวน์โรเซ่

January 12, 2021

โรเซ่ ไวน์สีชมพูสวยที่หลายคนมักจะคิดว่าเป็นไวน์รองจากไวน์แดงและไวน์ขาว แต่หากไม่มีไวน์โรเซ่ ก็อาจไม่มีไวน์ชนิดอื่นๆ เลย! เพราะนอกจากจะเป็นรูปแบบไวน์ที่เก่าแก่ที่สุด ยังเป็นไวน์ที่ทำให้เกิดการโต้แย้งกันสูงที่สุด วันนี้ไวน์แมนจึงอยากจะหยิบยกเอาทั้งชื่อเสียง และชื่อเสีย ของไวน์โรเซ่ มาเล่าสู่กันฟังกันนะครับ!

ไวน์แนะนำ

#1 โรเซ่ มาก่อนไวน์แดง ไวน์ขาวอีก!

 

 

หากพูดถึงพื้นฐานของไวน์หลายๆ คนจะนึกถึงไวน์แดง ไวน์ขาว และค่อยตามด้วยโรเซ่ แต่ความจริงแล้วมีการคิดค้นไวน์โรเซ่ได้ก่อน! ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์แล้ว โรเซ่ไวน์มีมาตั้งแต่ชั่วประมาณ 7,000 ปีก่อนคริสตกาล เนื่องจากเมื่อช่วงสมัยนั้นมนุษย์ยังไม่ได้เรียนรู้ที่จะแยกองุ่นขาวและองุ่นแดง การทำไวน์ก็จะเป็นอะไรที่ค่อนข้างพื้นฐาน นั่นคือเก็บองุ่นขาวและแดง มาเหยียบเพื่อบดทำเป็นน้ำที่ผสมผสานระหว่างเนื้อและเปลือกองุ่น จากนั้นจึงนำไปหมักในโถดินเผาที่เรียกว่า pithoi ได้องุ่นสีชมพูอ่อนๆ ที่มี Tannin สูง และ off-dry รสฝาดและไม่หวาน เกิดก่อนมีการเรียนรู้การแยกสี หรือสายพันธุ์องุ่นนับพันปีครับ

 

ซึ่งต่อมาในยุคกรีก เถาองุ่นและองค์ความรู้ด้านการทำไวน์ถูกส่งจากเมือง Phocaea สู่ฝรั่งเศสตอนใต้ เมือง Marseille แคว้น Provence ซึ่งเป็นพื้นที่แรกที่มีการผลิตไวน์ในฝรั่งเศส สามารถผลิตไวน์โรเซ่สีชมพูอ่อน รสชาติเข้มข้น สดชื่น จนโด่งดังไปทั่วโลก จนปัจจุบัน Provence ได้เป็นดั่งศูนย์กลางแห่งไวน์โรเซ่ ที่มีการผลิตเยอะที่สุด แถมยังจัดว่าเป็นโรเซ่ที่มีคุณภาพเยี่ยมที่สุดอีกด้วยครับ!

 

#2 ไวน์โรเซ่สมัยกรีกถึงโรมันเกิดขึ้นจากการเจือปนไวน์ด้วยน้ำเปล่า

 

อันนี้มีเรื่องราวความเป็นมาที่ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวครับ ต้องย้อนกลับไปเมื่อสมัยสปาต้า (400-500 BC) พระเจ้าลีออนิดัสที่ 1 ผู้ทรงเก่งกาจด้านการสู้รพเป็นที่สุด แต่สุดท้ายในบั้นปลายของชีวิต พระองค์กลับกลายเป็นคนบ้า เสียสติ และฆ่าตัวตายในคุกของตนเอง ผู้คนจึงกล่าวโทษว่าเป็นสาเหตุของไวน์ (ซึ่งสมัยก่อนไวน์จะมีส่วนผสมของแอลกอฮอร์สูงกว่าสมัยนี้มาก) ฉะนั้นการดื่มไวน์ที่ไม่ได้เจือปนด้วยน้ำ จึงถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน ไม่ถูกต้อง ฉะนั้นการเจือไวน์ด้วยน้ำ ทำให้มีสีอ่อน สีโรเซ่ จึงกลายเป็นสิ่งที่นิยมทำ โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นสูง โดยนอกจากจะทำให้ไม่เมามาก ยังทำให้สามารถดื่มไวน์ได้ยาวนานตลอดทั้งคืนด้วยครับ

 

#3 มีวิธีทำโรเซ่ 3 วิธีหลักๆ

 

แช่องุ่นพร้อมเปลือก – นำน้ำองุ่นแช่ผสมรวมกับเปลือกและกากขององุ่นเป็นระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 1-2 วัน ก่อนที่จะแยกองุ่นและเปลือก และเข้าสู่ขั้นตอนการหมักไวน์ตามปกติ ทำให้สีจากเปลือกองุ่นออกเป็นเฉดสีชมพูอ่อนครับ

 

Saignée – อ่านว่า San-yay แปลว่า ‘เลือดออก bleeding’ ซึ่งจะเกิดขึ้นในขั้นตอนการกด หรือบดองุ่นหลังจากเก็บเกี่ยว บ่อยครั้งจะเป็นองุ่นขาวโดยจะผสมไวน์แดงลงไปเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้น้ำองุ่นที่ได้มีสีเข้มขึ้นครับ เป็นวิธีที่นิยมใช้ในพื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตไวน์แดงอย่างเช่น Napa Valley และ Sonoma เป็นต้นครับ

การดัดแปลงสี – เป็นวิธีที่หลังจากที่ได้ไวน์แดงออกมาเรียบร้อยแล้วใส่ถ่านลงไปในไวน์แดงเพื่อดูดสีและรสชาติบางส่วนของไวน์แดงจนกลายเป็นโรเซ่ โดยเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่ก็จะไม่เป็นที่นิยม เพราะทำให้รสชาติไวน์อ่อนลงครับ

 

#4 เฉดสีของไวน์โรเซ่มีความแตกต่าง ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์องุ่น

 


ไวน์โรเซ่มีความหลากหลายทางด้านสีสันของไวน์ที่สุด ขึ้นอยู่กับปริมาณองุ่น และสายพันธุ์ที่ใช้ครับ

ไวน์โรเซ่สไตล์ Provence เน้นองุ่น Grenache เบลนด์ด้วย Syrah และ Cabernet Sauvignon เพียงเล็กน้อย ส่วนมากจะมีสีชมพูอ่อนที่สุดในบรรดาโรเซ่ในท้องตลาด เป็นสีแบบเบบี้พิงค์ แต่รสชาติฟรุ๊ตตี้ชัดเจน และมีโน้ตของสมุนไพร

เข้มขึ้นมาหน่อยก็จะเป็น Pinot noir และ Tempranillo หากเป็นไวน์โรเซ่ที่ผสม Sangiovese และ Cabernet Sauvignon จะมีสีชมพูอมส้ม หรือสีหลักจะเป็นสีชมพูและมีไฮไลท์เป็นสีส้มอ่อนๆ หากเป็นโรเซ่ที่ผสม Syrah หรือเป็นสไตล์ของRhône Valley และ Montepulciano จะเป็นโรเซ่ที่มีสีออกแดงชมพู ใกล้เคียงกับไวน์แดงมากๆ แต่รสชาติจะมีความเป็นโรเซ่ ที่ใช้ดื่มคู่กับเมนูเนื้อต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยมครับ


#5 ชื่อเสียงไวน์โรเซ่เริ่มเสียหายจากผู้ผลิตไวน์โปรตุเกส

 


ในปี 1943 ได้มีการนำไวน์โรเซ่จากโปรตุเกส 2 ยี่ห้อชื่อ
Mateus และ Lancers เข้าสู่อเมริกา และกลายเป็นว่าประสบความสำเร็จสุดๆ ด้วยรสชาติหวานหอมสดชื่น ดื่มง่าย ผนวกกับขวดเซรามิคที่โดดเด่น และราคาที่ถูก ทำให้เป็นที่ชื่นชอบอย่างมากในหมู่คนอเมริกาและยุโรปตอนกลาง 

แต่ต่อมาเมื่อผู้บริโภคเริ่มสนใจในเรื่องของคุณภาพของไวน์มากขึ้น ยอดขายของโรเซ่ไวน์ก็เริ่มตกต่ำลง รวมไปถึงทำให้แบรนด์อื่นเกิดความเสียหายไปด้วย เพราะผู้บริโภคมองว่าโรเซ่ไวน์จะต้องราคาถูก มีรสหวาน ดื่มแล้วเมาเร็ว แฮ็งค์หนัก


#6 ความนิยมไวน์โรเซ่พุ่งสูงติดลมบนในปี 2014… เพราะป๊อปเคาเจอร์

 


ในช่วงปี 1960-1990 ซึ่งเป็นยุคบูมของไวน์เกรดพรีเมี่ยม ทำให้ ไวน์โรเซ่ถูกมองว่าเป็นไวน์เกรดต่ำจนหลายคนไม่ได้มองโรเซ่ว่าอยู่ในหมวดหมู่เดียวกับไวน์แดงและไวน์ขาวด้วยซ้ำ! แต่ในช่วงปี 2010 จนไปพีคสุดในปี 2014 – 2015 ไวน์โรเซ่กลับมาฮิตสุดๆ โดยเฉพาะในอเมริกาที่ยอดขายโรเซ่เพิ่มขึ้นถึง 29% จากปี 2013 สู่ปี 2014 โดยกล่าวว่าสาเหตุสำคัญเลยคือโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงเหล่าดาราฮอลลีวู้ด ที่เริ่มหันมาดื่มโรเซ่ ทั้งแองเจลิน่า โจลี่, แพรด พิตต์ และอื่นๆ อีกมากมาย กลายเป็นเหมือนกับแฟชั่นของหญิงสาว ฐานะดี ถ่ายรูปคู่กับโรเซ่สีชมพูหรู พร้อมติด #
YesWayRosé 

นี่ทำให้โรเซ่ ถือว่าเป็นไวน์ที่ค่อนข้างจะสร้างความแตกแยกในวงการพอสมควร เพราะจะมีคนที่นิยมดื่มโรเซ่อย่างเดียวไปเลย แต่ก็ยังมีคนที่เป็นคอไวน์แบบฮาร์ดคอร์ ที่ส่ายหน้าให้ไวน์โรเซ่ หรือมองว่าความนิยมของโรเซ่เป็นเพียงความนิยมเพียงชั่วคราวเท่านั้น

Our favourite wines

"ไวน์" ไวน์แมน - ไวน์แดง ขาว สปาร์กลิงไวน์

สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด

บริษัทขอสงวนสิทธิ์การสั่งให้สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น ผู้สั่งต้องรับสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานทางร้านจะต้องมีการพบหน้าผู้สั่งและตรวจสอบบัตรประชาชนและอายุโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์ประกอบภาพและคำอธิบายทั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงประเภทและสรรพคุณของเครื่องดื่ม สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด หลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับ