Ruinart ถูกจุดประกายขึ้นเมื่อปี 1657 โดยนักประวัติศาสตร์ศาสนาหนุ่ม Dom Thierry Ruinart เริ่มคิดค้นศาสตร์ใหม่ๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือการทำปาร์คกลิ้งไวน์ โดยสมัยนั้นยังไม่มีคำเรียกสปาร์คกลิ้งไวน์หรือแชมเปญ แต่จะเรียกว่า ‘wine of bubbles’ จนกระทั้งในปี 1729 ที่หลานของ Dom ผู้มีชื่อว่า Nicolas Ruinart ได้สถาปณา Maison Ruinart ใน Reims ใจกลางแชมเปญซึ่งเป็นแคว้นเล็กๆ ทางเหนือของฝรั่งเศส ให้เป็นแชมเปญเฮาส์แห่งแรกของโลก
Ruinart ถือกำเนินกลางยุคเรืองปัญญา หรือ Age of Enlightenment ในรัฐสมัยที่คนให้ความ สำคัญกับ ‘ศิลปะแห่งการใช้ชีวิต’ และวิทยาการแปลกใหม่ ทำให้แชมเปญกลายเป็น Party trick ที่น่าตื่นต้นในทุกงานสังสรรค์ของชนชั้นสูง
ขนาดที่ช่วงปี 1735 ได้มีการบันทึกเป็นภาพวาดสีน้ำมัน ชื่อว่า The Oyster Dinner วาดโดย Jean Francois de Troy ติดอยู่ในห้องอาหารรองของพระราชวังแวร์ซายสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 เป็นภาพของงานสังสรรค์ของเหล่าขุนนาง ที่มีการเปิดขวดแชมเปญ Ruinart ดื่มคู่กับหอยนางรม โดยแขกในงานต่างตื่นตาตื่นใจกับฝาแชมเปญที่ต่างพุ่งขึ้นสูงเสียดเพดาน! นอกจากนั้นยังมีการขุด Crayeres หรืออุโมงหินปูนสีขาวโพลนใต้เมือง Reims ที่มีไว้เอจจิ้งแชมเปญ Ruinart อันล้ำค่า ซึ่งจัดเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของ UNESCO ไปแล้ว!
ความนิยมของ Ruinart พุ่งสู่จุดสูงสุดเมื่อปี 1896 เมื่อ Alphonse Mucha ศิลปินชาวเช็ก หนึ่งในผู้นำมูฟเม้นท์อาร์ทนูโว (Art Nouveau) ซึ่งพลิกโฉมหน้าโลกศิลปะโดยเฉพาะด้านกราฟฟิคดีไซน์ และอาร์ทเดโค่ วาดโปสเตอร์โฆษณาแรกให้กับ Ruinart เป็นภาพพิมพ์ของเทพีผู้สง่างาม พร้อมใบหน้าที่ตั้งใจให้มีความทรงพลังคล้ายผู้ชาย เพื่อสื่อให้เห็นถึงความหรูหร่า และพลังอำนาจของการดื่มแชมเปญ ซึ่งเป็นแคมเปญที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ตั้งแต่นั้นมา Ruinart ได้ทำการสนับสนุนศิลปินหน้าใหม่จากทั่วโลกทุกปี กิจกรรมที่เรียกว่า ‘Art Fair’
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ชื่อเสียงของแชมเปญ Ruinart ก็ไม่เคยมะลายหายไป ด้วย Dom Ruinart Blanc de Blanc 2007 จาก Chardonnay 100% หอมสดชื่นกลิ่นผลไม้เขตร้อน พีชขาว และดอกไม้สีขาว ไปจนถึง acidity ที่ลงตัว ครองใจคอแชมเปญมาจนถึงปัจจุบัน คว้า 94 คะแนนจาก Wine spector ไปอย่างสวยงาม ยืนหยัดในฐานะแชมเปญที่เป็น The True Art of Living!
