fbpx

งดบริการให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อ่านนโยบายการขาย คลิก

ติดต่อเราเพื่อสอบถาม

แอด LINE สั่งเลย

*สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น

Please add Image or Slider Widget in Appearance Widgets Page Banner.
If you would like to use different Widgets on each page, we reccommend Widget Context Plugin.

Super Tuscan (ชุปเปอร์ทัสคาน) – ไวน์ชุปเปอร์สตาร์อิตาลี

May 24, 2020

สำหรับคอไวน์เเล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักสุดยอดไวน์จากอิตาลีที่เรียกว่า ‘ชุปเปอร์ทัสคาน’ Super Tuscan คำนี้เป็นคำที่ใช่เรียกไวน์แดงจาก Tuscany ซึ่งบุกเบิกการปลูกการทำไวน์จากจากองุ่นอิมพอร์ต (โดยเฉพาะ Merlot, Cabernet Sauvignon เเละ Syrah) ทำให้ “ซูเปอร์ทัสคาน” แตกต่างจากไวน์อื่น ๆ (เช่น Chianti) จากทัสคานี


ไวน์แนะนำ



สมัยก่อนไวน์อิตาเลี่ยนนั้นไม่เหมือนสมัยนี้ เเละชื่อเสียงของไวน์อิตาเลี่ยนนั้นส่วนใหญ่จะมาจากไวน์ที่ค่อนข้าง mass เช่น Chianti, Riunite เเละ Lambrusco อันที่จริงไวน์อิตาเลียนในช่วง 1960s และ 1970s ถ้าไม่ดีมากๆก็เเย่ไปเลย ผู้ผลิตที่ดีมากๆใน Piedmont และ Tuscany ก็ผลิต Barolo และ Brunello เยี่ยมๆ ออกมา เเต่มีผู้ผลิตหลายรายที่ติดอยู่ในสถานการณ์อึดอัด เพราะ Brunello ไวน์ขั้นเทพของอิตาลีนั้นมีข้อจำกัดในการผลิตมากมาย เเต่ในอีกด้านหนึ่ง Chianti ก็เป็นไวน์ที่ไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่ ด้วยความอีดอัดนี้ ทำให้ผู้ผลิตใจกล้ากลุ่มหนึ่งตัดสินใจปลูกองุ่นอิมพอร์ต (Metlot, Cab Sav, Syrah) เเทนการใช้องุ่นพื้นเมืองของอิตาลี ผลลัพธ์คือไวน์ชุปเปอร์สตาร์เหล่านี้ ซึ่งเรารู้จักกันในนาม Super Tuscan (ชุปเปอร์ทัสคาน)

ในขณะที่ไวน์ Super Tuscan ยังไม่ได้ถูกจำเเนกอย่างเป็นทางการ เเต่ระบบ IGT Toscana เเละ Bolgheri DOC ก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาตอนต้นปี 90s เพื่อตอบสนองความโด่งดังของไวน์ชุปเปอร์ทัสคาน ตอนนี้ไวน์ Super Tuscan ได้กลายเป็นหนึ่งในไวน์ที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก เป็นที่รู้จักในหมู่นักสะสมไวน์ไม่เเพ้ Screaming Eagle และ DRC เลยทีเดียว

San Guido Sassicaia ถือว่าเป็นชุปเปอร์ทัสคานตัวเเรก เริ่มมาจากช่วง 1940s Mario Incisa della Rocchetta ได้ปลูก Cabernet Sauvignon เเละ Cabernet Franc ใน Bolgheri เพื่อทดสอบว่า องุ่นจาก Bordeaux จะเป็นยังไงถ้าปลูกใน Tuscany ซึ่งไวน์ที่ได้นั้นถูกเก็บไว้ดื่มเเค่ในครอบครัว แต่หลังจากที่คนรอบข้างคอยให้กำลังใจเเละผลักดันอยู่หลายปี ในที่สุด 1968 vintage ของ Sassicaia ก็ได้ถูกปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการในปี 1971 ในปีเดียวกัน ผู้ผลิตอีกเจ้าหนึ่ง Antinori ก็ได้ผลิต Tignanello ออกมา ซึ่งเป็น Sangiovese เน้นๆ ร่วมกับองุ่นจาก Bordeaux อยู่บ้าง

Super Tuscan

 

ฟีดเเบ็คดีเยี่ยมของ Sassicaia และ Tig ทำให้มีเจ้าอื่นตามมา เรียกว่านี่เป็นการรวมตัวกันขององุ่นจาก Bordeaux เลยก็ว่าได้ โดยมีการใช้องุ่นพันธุ์จาก Bordeaux เริ่มจาก Cabernet Sauvignon โดยสีไวน์จะเข้ม ตัวไวน์มีความ smoky มีผิวสัมผัสที่เเน่น ซึ่งตรงกันข้ามกับ Chianti เลยทีเดียว

หลังจากนั้นก็มีไวน์ Solaia ของ Antinori ปล่อยตามมาในปี 1978 ไวน์ blended ที่มีความเข้มของ Cabเเละยังมี Tenuta Dell’Ornellaia จาก Ornellaia ที่ปล่อยมาในปี 1985 อีก ซึ่งความสำเร็จในการผลิตไวน์ของพวกเขานั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า terroir ที่นี่สามารถปลูกองุ่นอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นองุ่นพื้นเมืองเสมอไป เเละ Cabernet ที่ผลิตใน Tuscany นั้นก็ดีไม่เเพ้ Bordeaux

Super Tuscan

 

จากความสำเร็จของ Cab องุ่นพันธุ์อื่นๆ เริ่มจาก Merlot จึงตามมาเป็นรุ่นน้อง ในปี 1986 Dell’Ornellaia ได้ผลิตไวน์ Masseto ออกมาโดยใช้ Merlot เป็นหลัก ซึ่งถ้าเราเปรียบเทียบ Sassicaia เเละ Solaia กับ Lafite เเละ Latour ไวน์ Masseto ก็คงต้องเปรียบเสมือนเป็น Petrus ของ Bolgheri ซึ่งจะมีรสชาติ bold เเละหรูหรามากมาก

เขียนกันมาขนาดนี้ ถ้าไม่มีไวน์มาเเนะนำก็ไม่ใช่ไวน์เเมนเเล้ว เราจะเน้นไปที่ vintage รุ่นเก๋าสุดคลาสสิคหน่อยของชุปเปอร์ทัสคานกันนะครับ บางตัวอาจเป็น vintage ที่โดนมองข้าม ทำให้ราคานั้นเข้าถึงได้มากกว่า

 

Tignanello 1988

มาเริ่มกันที่หนึ่งใน vintage ที่ดีที่สุดจาก Tignanello ในยุค 1980s ไวน์ full-bodied ตัวนี้มีสีม่วงเเดง ให้กลิ่นหอมของผลไม้สีแดงเเละดำ รวมทั้งโอ๊ค  มีรสชาติที่น่าประทับใจ หรูหรา พร้อม  acidity ที่พอดีเเละเเทนนินที่นุ่มละมุนเพอร์เฟ็กต์

Solaia 1989

Solaia 1989 ถือว่าเป็นไวน์จาก Tuscany ที่มีความใกล้เคียง Bordeaux ที่สุดตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไวน์มี body ปานกลาง มีรสชาติ Earthy ให้รสสัมผัสถึงเเร่ธาตุเเละหนัง อุดมไปด้วยกลิ่นหอมที่หลากหลาย ทั้งกลิ่นหวานของผลไม้และเครื่องเทศต่างๆ

Sassicaia 1990

Vintage ตัวนี้มีรสชาติที่สุดยอดมากครับ ทุกอย่างในไวน์ตัวนี้ลงตัวกันไปหมดเลย ซึ่งถ้าใครอยากลอง Sassicaia รุ่นเก๋า ไวน์เเมนเเนะนำตัวนี้เลย ส่วนเรื่องราคาขวดนี้ก็ไม่เบานะครับ เริ่มต้นที่ประมาณสองหมื่น เเต่ก็ยังถูกกว่าตัว 1985 ในตำนานครับ เพราะตัวนั้นเกือบเเสน!

Masseto 1994

น่าเสียดายที่ vintage ยอดเยี่ยมนี้มักถูกมองข้าม โดยตัวไวน์นี้มีความแน่นมากเเละให้ความรู้สึกถึงผลไม้ที่สุกเเล้ว เเถมมีโครงสร้างที่สุดยอด ตอนนี้ก็เอจได้พอดีเเล้วด้วย

Ornellaia 1995

Ornellaia ตัวนี้เป็นตัวสุดโปรดของไวน์เเมนเลย ปี 1995 นั้น เป็นปีที่อากาศผันผวน ซึ่งตอนเเรกอากาศเย็นเเละฝนตกบ่อย ทำให้ vintage เหมือนจะออกมาไม่ดี เเต่สุดท้ายอากาศผลิกผันออกมาเพอร์เฟ็กต์มากๆ ทำให้องุ่นสุกอย่างพอดิบพอดี ผลออกมาคือไวน์มีความ rich มาก มีกลิ่นชุ่มหญ้าดินเเละเครื่องเทศ มีความเข้มข้นของ acidity เเละเเทนนินที่บาลานซ์กันอย่างไม่น่าเชื่อ เอกลักษณ์นั้นดีจนบอกไม่ถูกต้องไปชิมกันเอาเองนะครับ

 

Our favourite wines

"ไวน์" ไวน์แมน - ไวน์แดง ขาว สปาร์กลิงไวน์

สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด

บริษัทขอสงวนสิทธิ์การสั่งให้สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น ผู้สั่งต้องรับสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานทางร้านจะต้องมีการพบหน้าผู้สั่งและตรวจสอบบัตรประชาชนและอายุโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์ประกอบภาพและคำอธิบายทั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงประเภทและสรรพคุณของเครื่องดื่ม สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด หลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับ